17 มีนาคม 2553

15 มีนาคม 2553 โชกุนเป็นชาวเกาะ

04.30 น. ออกจากบ้าน เดินทางไปเกาะช้างกับโชกุนนะครับ … แม่บอกว่า โกชุนนกรู้ สุดๆ พอแม่จับอุ้มขึ้นมา ตืนทันที แถมยังพูดขึ้นมา โชกุนจะไปเที่ยวแล้วว (เพราะก่อนนอน ปะป๊าบอกโชกุนว่า วันนี้รีบนอน นะแล้วพรุ่งนี้ปะป๊าจะพาไปเกาะช้าง) เราเดินทางออกจาก กทม.มุ่งไปเส้นทางมอเตอร์เวย์ ผ่านด่านจ่ายเงิน 2 ด่าน ปะป๊าขับรถไปทาง บ้านบึง-แกลง แล้วขับต่อไปเส้นทาง จันทรบุรี เราถึงปั๊มน้ำมัน ปตท. เวลา 7.30 น. แวะเติมน้ำมัน สุดท้ายก่อนที่เราจะเลี้ยวขวาออก ไปที่ท่าเรือเฟอรี่ (อ่าวธรรมชาติ ) จนเวลา 8.00 เราเดินทางถึงท่าเรือ แหมม โชคดีมากๆ พอเราจ่ายเงิน ค่าผ่านทาง (รถยนต์ 200 ผู้ใหญ่ 120 นี่คือราคาไป กลับ ส่วนโชกุนไม่เสียครับ)

ตรงโน่น เหรอปะป๊า เกาะช้าง โอ้โห้ วิวสวยจัง
บนเรือ มีร้านอาหาร เครื่องดื่ม และห้องน้ำ

ใช้เวลา 20 นาทีเองอ่ะพี่น้อง ก้อถึงเกาะช้างแล้วครับ ชิว ชิว


จุดมุ่งหมายเราคือหาดคลองพร้าว เราจะไปเช็คอินที่ โรงแรมรามายานะ เกาะช้าง

เราถึงที่พักตอน 9.00 เช้า ขอเช็คอินก่อนเวลาและน้องพนักงานก้อใจดีให้เราเช็คอินได้ก่อน

ห้ามเอารถส่วนตัวเข้าในบริเวณตัวโรงแรมเด็ดขาด ต้องใช้บริการของรถกอฟ์ของโรงแรมเท่านั้น
รอคนขับรถเมื่อไรมาตะทีน๊า .......โชอุนขับไม่เป็นนะครับ

ทางเข้าตัวโรงแรม เป็นถนนเส้นเล็ก เล็กแบบนี่

ห้อง 124 คือห้องที่โชอุนต้องนอน 2 คืน

เข้าห้องแล้ว เจอที่นอนก่อนเหมือนเดิม แต่เป็นมุ้งเลย สงสัยว่ายุงจะเยอะเป่าหว๋า

การจัดวาง ตกแต่งเน้นโทนสีน้ำตาล ใช้ไม้เป็นหลัก ดูคลาสสิกไปอีกแบบ

ห้องน้ำ ชอบการมัดผ้าเช็ดตัวแบบนี้จัง ที่นี้จะไม่มีอ่างอาบน้ำนะครับ ถึงจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ถามพนักงานบอกว่า ไม่มีอ่างเลยที่นี่เน้นความเป็นธรรมชาติ ประหยัดน้ำ ถ้าใช้อ่างจะเปลืองน้ำมาก มาคราวนี้โชอุนเลยไม่ได้นอนแช่อ่างเลย แต่ต้องไปแช่ที่สระว่ายน้ำแทน

มาหลังห้องกันบ้าง ด้านหลังจะเป็นสวน มีทั้งสะพานข้ามลำน้ำเล็กๆ น้ำพุ กังหัน จัดได้สวยยจริงๆ

หลังจากที่ซุกซนแล้ว ก้อสภาพนี้เลย ครับ
นอนก้ออิ่มแล้ว เราก้อพากันไปที่หาดไก่แบ้ ที่มีจุดชมวิว ที่นี่แหละจุดถ่ายรูป

วิวด้านบน ของจุดชมวิว หาดแบ้

เก๊กหล่ออีก แล้ววว

ยังไม่พอ ขอหล่ออีกนิดนุง.....พี่น้อง

โชกุนไปกินข้าวเย็นที่บางเป้า แม่บอกว่าผิดหวังอย่าแรงเพราะร้านเรือไทยซีฟู๊ด ปิดซ่อมหลังคาเลยไปกินที่ร้าน ชาวเลซีฟู๊ดด สั่งปูม้านึ่ง 1 โล 450 บาท(มา 4 ตัวเล็กกว่าที่หาดเจ้าสำราญมาก) , ผัดกุ้ง Xo จานละ 300 บาท และ ปลาทับทิมสามรส 450 บาท (ตามรูป)รวม 1490 บาท โอ้ ทามมมายยแพงซะขนาดนี้ ....อาหารไม่อร่อย ปูไม่สด แถมราคาแพงมาก เข็ดจริงๆๆ ร้านนี้
มาตอนเช้า เรากินข้าวกันที่นี่ ไลด์อาหารไม่เยอะมากนัก แต่รสชาติก้อตามสไสด์ชาวต่างชาตินิดนุง คือว่าไม่เผ็ด ออกแนวจืดๆ อ่ะ

เป็นด้านที่มีแต่ต้นไม้ พื้นที่ของชางบ้านซะเป็นสวนใหญ่ ส่วนรีสอร์ท น้อยมากๆ เพราะทราบมาว่า ส่วนใหญ่ที่พักจะไปอยู่ด้านที่โชกุนพักมากกว่า เราขับรถจนไปถึง สลักเพชร แล้ววนรถกลับ แต่เราแวะที่ร้านกาแฟ น่ารักๆ ร้านหนึ่ง ชื่อว่าร้าน “ The coffee home"
ไม่ทัน เจ้าตัวแสบลงน้ำตก เล็กๆๆของร้านซะแว๊ว...เดือนร้อนพ่อแม่ ต้องจับไปอาบน้ำที่ห้องน้ำของทางร้าน 5555






ซึ่งเป็นเครือเดียวกับรามายานะ เพราะว่าที่รามายานะ ไม่ติดทะเล น้องพนักงานบอกว่าเราสามารถใช้ทุกอย่าง ในเดวา ได้ไม่ว่าจะเป็น ฟิสเนส ซาวน่า ยกเว้นอย่างเดียวคือสระว่ายน้ำต้องมาใช้ที่ รามายานะ เท่านั้นจร้า










เพราะว่าของเล่นที่ตักทรายก้อโรงแรมมีไว้ให้บริการไม่ต้องเตรียมไปเอง





















ข้าวผัดปลา ปลากระพงทอดน้ำปลา กุ้งทอดกระเทียม หมึกไข่มะขาม ยำหอยแคลง ต้มยำทะเล ขอบอกว่าอร่อยยยทุกอบย่างจริง เรียกมาเก็บตังค์ 1250 โอ้ทามมายถูกจัง ให้เต็มทุกอย่าง อาหารมาเร็ว เรื่องรสชาติ และราคา ต่างจาก ร้านที่บางเป้าจริงๆ












มีทั้งสระผู้ใหญ่ และสระเด็กเล็ก ๆอย่างโชกุน ได้ลงสระ สองวันเลย คือเย็นวันที่ 14 และ เช้าวันที่ 15 ตื่นมาก้อ งอแง ขอลงสะว่ายน้ำ คิคิ








แล้วเราก้ออกจากโรงแรมขอชื่นชมในเรื่องของการบริการระดับ 5 ดาวพนักงานทุกคนเอาใจใส่แขกที่เข้าพัก ต้องบอกว่าทุกคน ไม่เว้นกระทั้งแม่บ้าน คนสวน คนขับรถบริการ ทุกคนเมื่อเจอแขกที่เข้าพักจะยกมือไหว้ทักทาย ทำให้เรารู้สึกว่า อึม ที่นี่เรื่องของ เซอร์วิส มายด์ ยอดเยี่ยมจริงๆ




แถม ภาพวีดีโอโชกุน ตรงริมสระน้ำ โรงแรม เดวา

16 มีนาคม 2553

28 ก.พ. 2553 โชกุน ณ หัวหิน-ชะอำ

เราออกเดินทาง กันตอน 9 โมงเช้า ระหว่างทางโดนฝนนิดนุง

ปะป๊าพาเข้าไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัด......แต่โชกุน จำไม่ได้ว่าชื่อวัดอะไร .....ธุ คร๊าบบบบ





















แต่โชกุนเลือกที่ชั้น 4 เพราะว่ามีสระเด็ก ด้วยครับ